วิธีสังเกตุว่าลูกหลานท่านเป็นเด็กพิเศษ หรือออทิสติกหรือไม่
เมื่อนำเอาพัฒนาการทุกด้านของเด็กออทิสติกมาเปรียบเทียบกับพัฒนาการของเด็กปกติ จึงทำให้เห็นถึงความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ในเด็กออทิสติกจะมีพัฒนาการล่าช้า และพบว่าความผิดปกติร่วมด้วย เป็นความบกพร่องของพัฒนาการที่สำคัญอยู่ 3 ด้าน คือ 1. ด้านสังคม 2. ด้านการสื่อความหมาย และ 3. ด้านการจิตนาการ จากการวิจัยใหม่ๆ แสดงให้เห็นว่า ความล่าช้าและความผิดปกติของพัฒนาการทั้ง 3 ด้านนั้น เกี่ยวข้องกับลักษณะหน้าที่ของสมองบางส่วน มีผู้พยายามศึกษาและวิเคราะห์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้หน้าที่ของสมองส่วนนี้เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันและการรักษาที่จะให้ได้ผลดีที่สุดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขั้นตอนการวินิจฉัยนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าสามารถวินิจฉัยได้ถูกต้องตั้งแต่เด็กยังมีอายุน้อยๆ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือและรักษาอย่างเหมาะสมทันทีแล้ว มีผลทำให้พัฒนาการเด็กดีขึ้นมาก จิตแพทย์เด็กได้พยายามศึกษาเรื่องข้อบ่งชี้ในการวินิจฉัยโรค "ออทิสซึ่ม" อย่างจริงจัง พบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการวินิจฉัยเกิดขึ้นมาก เนื่องจากในความล่าช้าและความผิดปกติทางด้านพัฒนาการทั้ง 3 ด้านของเด็กออทิสติกในแต่ละคนนั้น มีลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน หากผู้ให้การวินิจฉัยมุ่งแต่จะดูลักษณะความผิดปกติทางพัฒนาการทั้ง 3 ด้าน ซึ่งแตกต่างจากเด็กปกติในวัยเดียวกันอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น อาจเกิดความสับสนในการวินิจฉัยได้ เพราะว่ายังมีตัวแปรอีกหลายตัวที่ทำให้เด็กออทิสติกแต่ละคนมีลักษณะบางอย่างแตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน
เด็กออทิสติกแต่ละคนมีระดับความรุนแรงของโรคไม่เท่ากัน ความแตกต่างในรูปแบบของพฤติกรรมจำเพาะที่แสดงออก บางคนพบว่า มีความผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ลมชัก ความบกพร่องทางการได้ยินหรือทางการมองเห็น หรือความผิดปกติทางด้ายร่างกายอื่นๆ รวมทั้งโรคทางกายที่เรื้อรัง เป็นต้น
อายุของเด็กเมื่อได้รับการวินิจฉัย ได้รับการรักษาและช่วยเหลืออย่างเหมาะสมทันทีหรือไม่ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางสังคมรอบๆ ตัวเด็ก เช่น การเลี้ยงดู เป็นตัวแปรที่สำคัญยิ่ง ต่อพฤติกรรมที่แสดงออกของเด็กออทิสติก ควรคำนึงอยู่เสมอว่า เด็กออทิสติกทุกคนย่อมมีบุคลิกภาพของตัวเองอย่างเด่นชัด
อย่างไรก็ตาม การที่จะนำเด็กออทิสติกที่มีอาการดีขึ้นเข้าเรียนร่วมกับเด็กปกติในชั้นเรียนปกติเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรพิจารณาถึงระบบการศึกษาโดยผู้ปกครอง พ่อแม่ ต้องเข้าใจเด็กเหล่านี้ และพร้อมให้โอกาสทางการศึกษาเพื่อช่วยเหลือในสิ่งที่เด็กต้องการหรือตามศักยภาพของเด็กได้อย่างเหมาะสม ความต้องการและศักยภาพของเด็กเหล่านี้ มีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับความสามารถของเด็กในแต่ละคนด้วย
ข้อบ่งชี้ตามคู่มือการวินิจฉัยโรค "ออทิซึ่ม" และสถิติความผิดปกติทางจิตของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน มีหัวข้อใหญ่ 4 หัวข้อ ดังนี้ (1. การสูญเสียทางด้านสังคมและไม่สามารถมีปฏิกิริยาต่อสัมพันธภาพของบุคคลได้ ต้องพบอย่างน้อย 2 ข้อย่อยดังนี้ 1.1 แสดงพฤติกรรมไม่สนใจใคร มีการกระทำต่อบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตอื่นคล้ายสิ่งของ ไม่สามารถมีปฏิกิริยาต่อสัมพันธภาพของบุคคล 1.2 แสดงพฤติกรรมไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้จักช่วยตัวเองจากอันตรายต่างๆ 1.3 ไม่สามารถลอกเลียนแบบการกระทำของคนอื่นได้ 1.4 เล่นกับใครไม่เป็น 1.5 ไม่สนใจที่จะมีเพื่อน ไม่สามารถผูกมิตรกับใครได้
(2. มีการสูญเสียทางด้านการสื่อความหมายด้วยการพูดและไม่ใช้คำพูด ต้องพบอย่างน้อย 1 ข้อย่อย ดังนี้
2.1 ไม่สามารถแสดงพฤติกรรมสื่อความหมายได้เลย 2.2 มีความผิดปกติอย่างชัดเจนในการสื่อความหมายที่ไม่ใช้คำพูด 2.3 ขาดจินตนาการในการเล่น 2.4 มีความผิดปกติอย่างชัดเจนในการเปล่งเสียงพูด 2.5 มีความผิดปกติอย่างชัดเจนในรูปแบบ และเนื้อหาของการพูด 2.6 ไม่มีความสามารถที่จะสนทนากับใครได้นานมักจะพูดแต่เรื่องที่ตัวเองสนใจเท่านั้น
(3. มีการกระทำและความสนใจซ้ำซากอย่างเด่นชัด ต้องพบอย่างน้อย 1 ข้อย่อย ดังนี้
3.1 เคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายซ้ำๆ 3.2 คิดหมกมุ่นหรือสนใจส่วนหนึ่งส่วนใดของสิ่งของ 3.3 แสดงความคับข้องใจอย่างมาก ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเขา หรือที่เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน 3.4 ต้องทำสิ่งหนึ่งที่เคยทำเป็นประจำ โดยมีรายละเอียดเหมือนเดิม 3.5 มีความสนใจในขอบเขตที่จำกัด
(4. เริ่มพบอาการในช่วงอายุระหว่างวัยทารก (ก่อน 30-36 เดือน หรือวัยเด็ก เป็นข้อบังคับว่าต้องมีข้อนี้เสมอ
เมื่อรวมข้อปลีกย่อยทั้งหมดจากข้อ (1 (2 (3 และ (4 แล้วต้องพบทั้งหมดไม่น้อยกว่า 8 ข้อย่อย สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเสมอ คือ ต้องพิจารณาว่าความผิดปกติทางพฤติกรรมที่พบนั้น เป็นความผิดปกติที่เปรียบเทียบจากระดับพัฒนาการของเด็กปกติในวัยเดียวกันเท่านั้น
คัดจากเวป www. pantown.com
การดูแลเด็กพิเศษ (เด็กสมาธิสั้น และหรือเด็กออทิสติก)
ให้เขามีความสุขด้วยวความรัก ที่เมตตา ไม่กดดัน ไม่สร้างเงื่อนไขมากเกินไป แต่ก็ไม่ตามใจเกินไป ให้เขามีความภูมิใจของตน สอนแสดงออกในด้าบวก ดึงส่วนที่เขาถนัดให้เขานำออกมาแสดงความสามารถ
หรือดาวน์โหลดไฟล์ Click download ที่นี่
สนในข้อมูลในรายละเอียด สามารถเข้าเวป ชมรมผู้ปกครองบุคคลสมาธิสั้นแห่งประเทศไทย
|